Y MAGAZINE

0

ตรวจสุขภาพประจำปี 2568
  
วันที่ : ​​​29  มกราคม 2567  
ผู้เขียน :  ศิริวรรณ กฤษณะสุคนธ์   

เมื่อวันที่ 27 - 29 มกราคม 2568 ยิบอินซอย ได้จัดกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปีให้กับพนักงานโดยได้รับความร่วมมือจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลเลิดสิน เพื่อแสดงถึงความใส่ใจในสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีคุณภาพและยั่งยืน
 
การตรวจสุขภาพครั้งนี้ครอบคลุมการตรวจเช็กร่างกายทั่วไปและการประเมินสุขภาพเบื้องต้น อย่าง การตรวจเลือด วัดความดันโลหิต ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด ตรวจปัสสาวะ ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) ตรวจสายตา รวมถึงการปรึกษากับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำแนะนำและตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพเบื้องต้น 

กิจกรรมในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของยิบอินซอยในการเป็นองค์กรที่ไม่เพียงแค่สร้างผลกำไร แต่ยังใส่ใจสุขภาพและความสุขของพนักงานในทุกมิติ “สุขภาพดี เริ่มต้นที่ใส่ใจ” ถือเป็นอีกหนึ่งแนวทางสำคัญที่บริษัทมุ่งมั่นดำเนินตลอดมา เพื่อให้พนักงานทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่แข็งแรงทั้งกายและใจ พร้อมก้าวไปข้างหน้ากับองค์กรอย่างมั่นคงและยั่งยืน 

SUPERHERO & FAIRYTALE
NIGHT PRATY

  
วันที่ : ​​​25  ธันวาคม 2567  
ผู้เขียน :  ศิริวรรณ กฤษณะสุคนธ์   

Sample text. Click to select the Text Element.

 จบไปแล้ว กับงานเลี้ยงปีใหม่ของพวกเราชาวยิบอินซอย ในธีม SUPERHERO & FAIRYTALE NIGHT PRATY” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ณ Royal Jubilee Ballroom @Muang Thong Thani วันนี้โอกาสดีพาทุกท่านมาชมภาพบรรยากาศงานเลี้ยงบางส่วน ที่มีทั้งเหล่า SUPERHERO อย่าง Black Widow, Hulk, Wonder Women, Disney Princess, Sailor Moon และเหล่า FAIRYTALE ในเทพนิยายทั้งหลาย ฯลฯ  แห่เข้าร่วมงานกันอย่างหนาแน่น โซนหน้างานเรามี Booth Game ร่วมสนุกเรียกน้ำจิ้ม ก่อนที่จะพบไฮไลท์การประกวดการแต่งกายและโชว์การแสดงยอดเยี่ยม ซึ่งไม่ว่าจะประกวดเดี่ยวหรือประกวดทีม ก็บอกเลยว่าไม่มีใครยอมใคร เธอจัดเต็ม ฉันก็ต้องจัดเต็ม ไม่มีใครยอมใคร ชนิดที่ว่า ...เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้... โดยผลการประกวด ดังนี้ 
   
 ผลการประกวดการแต่งกายแบบเดี่ยว
- รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 5,000 บาท ได้แก่ Hulkta Claus
- รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 3,500 บาท ได้แก่ Maleficent
- รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 2,500 บาท ได้แก่ Ghibli
- รางวัลที่ 4 เงินรางวัล 1,500 บาท ได้แก่ Stormtrooper in Star Wars
- รางวัลที่ 5 เงินรางวัล 1,500 บาท ได้แก่ Disney Princess
- รางวัลที่ 6 เงินรางวัล 1,500 บาท ได้แก่ Annabelle

ผลการประกวดการแต่งกายแบบทีม
- รางวัลชนะเลิศ เงินรางวัล 10,000 บาท ได้แก่ เด็กเลี้ยงแกะ
- รางวัลที่ 2 เงินรางวัล 8,000 บาท ได้แก่ Alice in Wonderland
- รางวัลที่ 3 เงินรางวัล 6,000 บาท ได้แก่ Power Rangers
- รางวัลที่ 4 เงินรางวัล 3,000 บาท ได้แก่ ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร (คุณหญิงจันและคุณหญิงมุก)
- รางวัลที่ 5 เงินรางวัล 1,500 บาท ได้แก่ เอลฟ์

แล้วพบกันใหม่กับกิจกรรมสนุกสนานและของรางวัลต่างๆ มากมาย จากชมรมพนักงานในปี 2568 นะคะ สวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ เริ่มต้นปีใหม่ด้วยรอยยิ้มด้วยกันนะคะ สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @Baimai หรือทางช่องทาง Facebook Fanpage: YIP IN TSOI FANCLUB ได้เลยนะคะ 

 มอบรางวัลอายุงานประจำปี 2567 


  
วันที่ : ​​​18  ธันวาคม 2567  
ผู้เขียน :  ศิริวรรณ กฤษณะสุคนธ์   

บริษัท ยิบอินซอย จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการมาเป็นเวลากว่า 99 ปีแล้ว จึงมีพนักงานจำนวนมากที่ร่วมงานกับองค์กรมาเป็นเวลานานเกินกว่า 10 ปี ซึ่งบุคลากรทุกท่านนี้ ถือเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนสนับสนุนให้องค์กรเติบโตก้าวหน้ามาถึงปัจจุบัน
โดยในปีนี้  ทางชมรมพนักงานฯ ได้จัด พิธีมอบรางวัลอายุงาน ประจำปี 2567 ในวันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ให้แก่พนักงานที่ทำงานให้กับบริษัทมาเป็นเวลา 10 ปี ขึ้นไป โดยรวมทุกบริษัทในเครือแล้ว มีจำนวน 121 ท่าน ซึ่งในงานนี้ ชื่อผู้บริหารที่ขึ้นมอบรางวัล (รออัปเดตวันที่ 20 ธันวาคม 2567) ให้เกียรติเป็นประธานและเป็นผู้มอบรางวัล ให้แก่พนักงานทุก ๆ ท่าน ทั้งยังได้ร่วมพูดคุยและรับประทานอาหารกลางวันกับเหล่าพนักงานที่ได้รับรางวัลอย่างเป็นกันเองอีกด้วย    
 การมอบรางวัลอายุงานถูกจัดขึ้นทุกปี ต่อเนื่องเป็นเวลา 40 กว่าปีแล้ว ซึ่งเกณฑ์ในการมอบรางวัลเป็นดังนี้ - รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 10 ปี ได้รับแหวนทองคำหนัก 1 สลึง 1 เฟิ้อง
- รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 15 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึง
- รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 20 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึง และสร้อยทองคำหนัก 2 สลึง
- รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 25 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึงและสร้อยทองคำหนัก 1 บาท มูลค่ารวม 6 สลึง
- รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 30 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึงและสร้อยทองคำหนัก 6 สลึง มูลค่ารวม 2 บาท
- รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 35 ปี ได้รับทองคำแท่งหนัก 2 บาท 2 สลึง
- รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 40 ปีขึ้นไป  ได้รับทองคำแท่งมูลค่าน้ำหนักตามสัดส่วนอายุงานของพนักงาน (ทุก 5 ปี เพิ่ม 2 สลึง)   

ในช่วงค่ำวันนั้น ทางชมรมพนักงานฯ ได้จัดงานเลี้ยงประจำปี ในธีม “SUPERHERO & FAIRYTALE NIGHT PRATY” โดยมี Mini Concert พิเศษจากศิลปินวง “LIPTA” และวง “ZEAL”  มาแสดงคอนเสิร์ต สร้างความบันเทิงและความสนุกสนานให้กับพนักงานทุกท่าน ณ Royal Jubilee Ballroom @Muang Thong Thani งานเริ่มลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 17.00 น. ทางชมรมฯ จึงขอเชิญชวนเพื่อนพนักงานมาร่วมกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ โดยการแต่งกายสไตล์ SUPERHERO & FAIRYTALE เรามีรางวัลประกวดการแต่งกายทั้งประเภทเดี่ยวและประเภทกลุ่ม ร่วมถึงมีการประกวดการแสดง และของรางวัลต่างๆ มากมาย มอบให้ทุกคนได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านกันอย่างแน่นอน สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Line: @Baimai หรือทางช่องทาง Facebook Fanpage: YIP IN TSOI FANCLUB ได้เลยนะคะ 

หล่อเทียนพรรษา และแห่เทียนพรรษามหามงคล
ประจำปี ๒๕๖๗  



  
วันที่ : ​​​17  กรกฏาคม 2567  
ผู้เขียน :  ศิริวรรณ กฤษณะสุคนธ์   

เทศกาลเข้าพรรษา ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ประเพณี การหล่อเทียนและ แห่เทียนพรรษา ในปีนี้ วันเข้าพรรษาตรงกับ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๗ วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๘ เป็นวันสำคัญที่พระสงฆ์จะเริ่มอธิษฐานพักจำพรรษาอยู่ในวัดตลอดช่วงฤดูฝนระยะเวลา ๓ เดือน เพื่อศึกษาพระธรรมและ ปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างเคร่งครัด

กลุ่มบริษัทยิบอินซอยของเรา จัดกิจกรรม “หล่อเทียนพรรษา” โดยมี คุณเทียนชัย ลายเลิศ ประธานกรรมการ บริษัท ยิบอินซอย จำกัด พร้อมด้วยคุณมรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยิบอินซอย จำกัด และพนักงาน ร่วมสืบทอดประเพณี และรักษาวัฒนธรรมอันดีงามของไทย เสริมสร้างบุญกุศล ที่เชื่อว่าจะช่วยให้ชีวิตของทุกท่านมีแสงสว่างและความเจริญรุ่งเรือง

เมื่อทำการหล่อเทียนจนได้ต้นเทียน ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ก็จะเข้าสู่พิธีการ “แห่เทียน” ซึ่งได้รับความร่วมมือจากคณะคุณครูและ นักเรียนโรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม ดังเช่นทุกปี มาร่วมขบวน แห่เทียนพรรษาไปด้วยกัน พร้อมกับผู้บริหารและ พนักงานชาวยิบอินซอยทุกท่าน เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีไทยอันดีงาม และเสริมสร้างความร่วมมือร่วมใจภายในบริษัท
หากใครพลาดร่วมงานในปีนี้ ปีหน้าขอเรียนเชิญชวนมาร่วมงาน ทุกท่านสามารถติดตามข่าวสาร กิจกรรม ประชาสัมพันธ์ ได้ที่ Line OA : @linebaimai

โปรแกรมดูแลสุขภาพพนักงานนวด

“คอบ่าไหล่”



  
วันที่ : ​​​10  กรกฏาคม 2567  
ผู้เขียน :  ศิริวรรณ กฤษณะสุคนธ์   

“เพราะสุขภาพของพนักงานสำคัญเสมอ” ผ่านไปอีกครั้งกับโปรแกรมดูแลสุขภาพพนักงานนวด “คอ บ่า ไหล่” ซึ่งมีบริการนวดไปเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 ณ Training Center จึงนำภาพบรรยากาศ การให้บริการนวดมาฝากพี่ๆ น้องๆ ชาวยิบอินซอยกัน

เทคนิคการนวด “คอ บ่า ไหล่” เป็นวิธีที่ดีอีกวิธีหนึ่งในการช่วยคลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวดไม่ว่าจะจากการนั่งทำงานที่นานเกินไป นั่งไม่ถูกท่า ปวดเมื่อยเพราะออกกำลังหรือร่วมกิจกรรมอื่นๆ โดยทางบริษัท โดยมีพนักงานมืออาชีพมาให้บริการและให้คำแนะนำเฉพาะจุดถึง 5 ท่าน โดยมีการแบ่งบริการไปตามรอบที่ได้ลงเวลาที่ต้องการนวดไว้ ใช้เทคนิคการนวดกดจุด หรือ Deep Friction Massage ซึ่งจะเป็นการนวดกดจุดลงไปบริเวณกล้ามเนื้อที่มีความตึงตัว เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัว และทำให้เลือดไหลเวียน จึงช่วยบรรเทาอาการปวดให้ทุเลาลงได้
ผลตอบรับจากผู้เข้าใช้งานเกี่ยวกับบริการนวด “คอ บ่า ไหล่”  “อาการปวดหัวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ พอนวดบริเวณ คอ บ่า ไหล่ แล้วรู้สึกอาการปวดหัวลดน้อยลงเลยค่ะ”

นี่เป็นเสียงบางส่วนจากพนักงานที่เข้ารับบริการนวดในวันนั้น ถือว่าเป็นเสียงตอบรับที่ดีมากๆ 
สำหรับใครที่พลาดโอกาสนวดในครั้งนี้ไป ยังมีกิจกรรมดูแลสุขภาพพนักงานอีกเพียบ!! รอติดตามผ่านทางช่องทางไลน์ BAIMAI ได้เลยนะคะ แล้วพบกันอีกกับกิจกรรมดีๆ ในครั้งหน้าค่ะ 

7 Habits of Highly Effective People
บทเรียนสำหรับทุกคนที่ไม่ว่าใครก็สามารถ
‘ประสบความสำเร็จ’ ได้ 



  
วันที่ : ​​​10  กรกฏาคม 2567  
ผู้เขียน :  ศิริวรรณ กฤษณะสุคนธ์   

7 Habits of Highly Effective People หรือ 7 อุปนิสัยพลิกชีวิต จุดเริ่มต้นมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เขียนโดย Stephen R. Covey ที่ขอแค่คุณอยากเริ่มพัฒนาตัวเอง ก็สามารถนำสิ่งที่อยู่รอบตัวมาเพิ่มประสิทธิภาพ จนก่อให้เกิดประสิทธิผลได้โดยการเริ่มง่ายๆ จากพื้นฐานการใช้ชีวิตทั้งในเรื่องของการทำงานและการใช้ชีวิตในเรื่องส่วนตัว โดยใน Session นี้ ดร.มารุต มณีสถิตย์ Vice President InnovateXperience Divison (CNS Tech Business, Digital Services Business) ให้คำนิยามว่า "โอกาสทุกเรื่องคือโอกาส ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีโอกาส" ซึ่งเป็นคำนิยามที่ถือว่าดีมาก ๆ ทีเดียว การเข้าใจตัวเองพร้อมความอยากพัฒนาตัวเองให้ดีเก่งมากขึ้น ถือเป็นคุณลักษณะอย่างแรกที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จ 7 Habits ขึ้นอยู่กับการตีความของแต่ละคน และสามารถแปรเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาชีวิตได้ เช่น เราในวัย 30 อาจจะมีมุมมองความคิดที่แตกต่างกับในเราในวัย 40 ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดหรือแปลกแต่อย่างใด อยู่ที่การเข้าใจและการสร้างวินัยให้ตนเองมากกว่า อุปนิสัยของ Habits สามารถเกิดขึ้นได้จาก 3 ส่วนด้วยกัน (1) Desire ความต้องการเราจะทำอะไร (2) Knowledge ใช้องค์ความรู้ที่เรามีในการส่งเสริมสิ่งที่ต้องการ Desire จะด้วยองค์ความรู้ใหม่หรือองค์ความรู้เก่าก็ได้ (3) Skills ทักษะความสามารถที่จะทำสิ่งที่ต้องการให้สำเร็จตามที่หวังไว้

สิ่งสำคัญมากอีกอย่างในการดำเนินชีวิต เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลให้เกิดความไว้วางใจ เชื่อใจ จนถึงความรู้สึกปลอดภัย คุณต้องมี ‘Emotional Bank Account’ บัญชีออมใจ ให้เปรียบธนาคารคือตัวเราเองที่คอยสะสมว่าเราเป็นคนอย่างไรหรือแบบไหน โดยสามารถถอน Emotional ออกบางเรื่องและเติมเรื่องอื่นเข้าไปแทนได้ในทุกช่วงเวลาให้ตอบรับกับสถานการณ์นั้นๆ ภายใต้แนวความคิด “อยากเป็นคนแบบไหนให้ทำสิ่งนั้นกับผู้อื่นก่อนหรือถ้าหากไม่ชอบแบบไหนก็อย่าทำสิ่งนั้นกับผู้อื่น” 

ภาพรวมของ ‘The Maturity Continuum’ วงล้อวุฒิภาวะ เราเกิดมาเริ่มต้นจากต้องพึ่งผู้อื่น เมื่อตอนเป็นเด็กเราต้องพึ่งพาแม่ให้ดูแลเรา เมื่อเรามี 3 Habit แรกแล้ว (be proactive, begin with the end in mind, put first thing first) เราจะมีชัยชนะส่วนตน และเราจะย้ายไปสู่การพึ่งพาตนเอง จากนั้นเมื่อเรามี Habit ที่ 4-6 แล้ว (think win win, seek first to understand then to be understood, synergize เราจะมีชัยส่วนรวมและจะย้ายไปสู่การพึ่งพาซึ่งกันและกัน สำหรับ habit 7 sharpen the saw ในภาพจะล้อมรอบทุก habit เพราะเป็น habit ที่ทำให้ habit อื่น ๆ เป็นไปได้

Habit 1 Be Proactive มีสติ รู้รับผิดชอบ การมีสติต้องเกิดจากการเรียนรู้และฝึกฝน ที่สำคัญทักษะต้องมาพร้อมกับสัญชาตญาณที่ถูกต้องด้วยจะต้องฝึกเพื่อให้เกิดความชำนาญอยู่เสมอ เพราะการใช้ชีวิตในเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัวมีสิ่งที่ควบคุมได้และสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่การมีสติ รู้รับผิดชอบจะเป็นวิธีจัดการทั้ง 2 สิ่งนี้เพื่อให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด

Habit 2 Begin With the End in Mind เริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ ก่อนจะทำอะไรต้องวางแผนก่อนเสมอ กำหนดเป้าหมาย แนวทาง การกระทำและดำเนินการทำแผนแบบโปรแอกทีฟ ซึ่งสิ่งนี้คุณไม่จำเป็นต้องเป็น Manager ก็สามารถเป็น Leader ได้ด้วยวิสัยทัศน์ที่ดี
Habit 3 Put First Things First ทำสิ่งที่สำคัญ เร่งด่วนก่อน โฟกัสการดำรงชีวิตกับสิ่งที่สำคัญเท่านั้น อาจทำตารางตามเรื่องที่เร่งด่วน ไม่เร่งด่วน สำคัญ และไม่สำคัญเพื่อโฟกัสให้ถูกจุด โดยการทำตารางเหล่านี้ จะช่วยเราจัดระเบียบชีวิต มีเวลาให้กับการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ Habit 4 Think Win-Win คิดแบบชนะ/ชนะ เคารพซึ่งกันและกันเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน โดยการรักษาความสมดุลระหว่างความกล้าหาญและใส่ใจผู้อื่นไม่ว่าจะธุรกิจ เพื่อนร่วมงานหรือเรื่องส่วนตัว

Habit 5 Seek First to Understand, Then to Be Understand เข้าใจผู้อื่นก่อนแล้วจึงให้ผู้อื่นเข้าใจเรา การสื่อสาร เป็นสิ่งสำคัญ การรับฟังผู้อื่นอย่างเข้าอกเข้าใจเป็นการนำตัวของเราเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ของผู้พูด ซึ่งหากเราไม่รับฟังหรือไม่เข้าใจผู้พูดในบริบทนั้น ๆ อาจทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงได้ เช่นลูกไม่ยอมทำการบ้านอาจจะเกิดจากลูกไม่เข้าใจในบทเรียนนั้น ๆ หากเราตีและดุด่า อาจจะทำให้ความสัมพันธ์มีแต่แย่ลง เราควรรับฟังจากสิ่งที่เขาเล่าและแสดงออกมาก่อนจะวิเคราะห์และให้คำแนะนำเพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิผลมากขึ้น 
Habit 6 Synergize ผนึกพลังประสานความต่าง นำความคิดและแนวทางของแต่ละส่วนมาสัมพันธ์เข้าด้วยกัน ใช้การประนีประนอมเพื่อพึ่งพากันอาศัยกันเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีกว่าเดิม ถือเป็นการสร้างคุณค่าและยินดีกับความคิดเห็นที่แตกต่าง ตามกลยุทธ์ขององค์กร Modernization, Gorwth Mindset, Result Oriented, High Proformance Culture

Habit 7 Sharpen the Saw ลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ สร้างความสมดุลเติมพลังอยู่เสมอใน 4 มิติของชีวิตทั้งทางด้าน Physical กายภาพ, Mental สติปัญญา, Social/Emotional สังคมและอารมณ์, Spiritual จิตวิญญาณ เพื่อให้พร้อมสำหรับกาใช้ชีวิตและการทำงาน
และสุดท้ายที่เสริมเข้ามากับ Habit 8 Find your Voice ฟังเสียงของตัวเอง ก่อนจะเริ่มทำอะไรคุณต้องมีภาวะการเป็นผู้นำ มีองค์ความรู้เรื่องนั้น ๆ อย่างถ่องแท้ ทักษะการบริหารคนและการสื่อสารที่ดี เพื่อให้เกิดความกล้าที่จะสร้างประสิทธิผลไปสู่ความยิ่งใหญ่ในอนาคต 

Friday
with
Been Napasorn



  
วันที่ : ​​​5  มิถุนายน 2567  
ผู้เขียน : ภัคศรัณย์ สุขวงษ์ศิลป์   

ผ่านไปแล้วกับกิจกรรม Friday with Been Napasorn ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ The Conner House Bangkok วันนี้เลยอยากจะนำภาพบรรยากาศบางส่วนมาให้ได้รับชมกัน โดยเฉพาะไฮไลท์ อยู่ที่การจับฉลากแจกของรางวัล ซึ่งรางวัลในกิจกรรมครั้งนี้เป็น Art Toy อาทิ Cry Baby, Labubu Macaron โดยเหล่าสมาชิกชมรมฯ ที่เข้าร่วมงานได้รับความ ความสุข และความสนุกไปแบบเต็มๆ จากศิลปิน Lyxn.project, Bean Napason

กิจกรรมในครั้งหน้าจะเป็นกิจกรรมอะไรนั้น รอติดตาม ผ่านทางแฟนเพจ Yip In Tsoi Fan Club แล้วมาร่วมกิจกรรมด้วยกันนะครับ  

ผลการประกวดข้อคิดที่ได้จากการฟังเทศน์  
ในกิจกรรม  “ฟังธรรมวันพระ” ครั้งที่ 8
(7 กุมภาพันธ์ 2567)



  
วันที่ : ​​​7  กุมภาพันธ์ 2567  
ผู้เขียน : ฐิติรัตน์ แซ่ตัง   

เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2567 – คุณเอกรักษ์นามวงศ์คุณเอกรักษ์นามวงศ์ Section Manager – Office Management Section เป็นตัวแทนผู้บริหารมอบรางวัลให้กับผู้ชนะที่ส่งข้อคิดเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ ได้แก่ น้องแนนอรวรรณแขวงรถ Administrative Officer จากฝ่ายบัญชี Administrative Section ของบริษัทยิบอินซอยและแย๊คส์จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (จากกองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษาพัฒนา) จากการไปร่วมฟังเทศน์ ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เนื่องในวันพระซึ่งตรงกับวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “ความเป็นผู้มีบุญอันทำไว้แล้วแต่ปางก่อนนั้นเป็นมงคลยิ่ง” โดยน้องแนน  ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ชาวยิบอินซอยทุกท่านไว้ว่า “ดิฉันอยากเชิญชวนให้ชาวยิบอินซอยสละเวลาอันมีค่าเพียงน้อยนิดของท่านได้สัมผัสกับกิจกรรมที่ทางผู้บริหารของบริษัทยิบอินซอยและบริษัทในเครือฯได้จัดให้พนักงานของบริษัททุกท่านได้เข้าร่วมฟังธรรมะในวันพระช่วงเช้าเวลาประมาณ 09.00 น. ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ชาวยิบอินซอยจะได้ออกไปสัมผัสบรรยากาศอันเงียบสงบและร่มรื่นในวัดมหาพฤฒารามวรวิหารซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การฟังธรรมเป็นอย่างยิ่งได้รับฟังธรรมะที่มีเนื้อหาช่วยจรรโลงจิตใจรวมถึงการฝึกคิดอย่างมีสติและมีสมาธิอีกทั้งสามารถฝึกทักษะการฟังการจับใจความสำคัญและแก่นของเรื่องที่ฟังเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเหมือนหัวข้อการฟังเทศน์ที่ดิฉันได้ฟังเรื่อง “ ความเป็นผู้มีบุญอันทำไว้แล้วแต่ปางก่อนนั้นเป็นมงคลอย่างยิ่งในโอกาสนี้ดิฉันจึงอยากเชิญชวนชาวยิบซอยทุกท่านร่วมสัมผัสความรู้สึกเหมือนที่ดิฉันเคยได้สัมผัสมาแล้วเข้าร่วมฟังธรรมะฟังเทศน์ในวันพระช่วงเช้าเพื่อฝึกจิตให้เกิดความสงบผ่องใสพร้อมเผชิญปัญหาต่างๆที่เข้ามาในชีวิตได้อย่างมีความสุข”

สำหรับเนื้อหาของข้อคิดที่ส่งเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมามีรายละเอียดดังต่อไป
 
ความเป็นมงคลคือความเจริญรุ่งเรืองที่เกิดขึ้นภายในใจตนพระพุทธศาสนาไม่ได้บอกว่า มีอะไรเกิดขึ้นมาเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมาบนโลกนี้ มันเป็นเหตุเป็นผลกันทั้งนั้น เมื่อเหตุมี ผลมันก็จะมี ไม่มีเหตุ ผลมันก็ไม่มี หรือที่เรียกว่า กรรมคือการกระทำเพราะทุกสิ่งล้วนแล้วแต่เป็นเหตุ เป็นปัจจัยด้วยกันทั้งนั้น 

บุญ คือ สิ่งที่นำพาความสุข ความเจริญมาให้
บุญ แปลว่า เครื่องชำระ ที่สามารถชำระจิตใจที่ไม่ดีให้ดีขึ้นมาได้ หรือ
บุญ แปลว่า ความสุข ความสุขใดก็ตามที่ทำให้เรามีความเยือกเย็นสบาย 
บุญแบ่งเป็น 2 ประเภท
- บุญในช่วงไกล คือ คือ คุณงามความดีที่เราทำจากภพชาติก่อน ซึ่งเกิดจากการสั่งสมความดีมาตั้งแต่ภพชาติก่อน แล้วส่งผลให้เราเห็นในปัจจุบัน
- บุญในช่วงใกล้ คือ คุณงามความดีที่เราทำในภพชาติปัจจุบัน ที่พอรำลึกได้ว่า เราได้ตั้งใจทำอะไรมาบ้าง เมื่อผลที่ได้มาดี ย่อมเกิดจากเหตุที่ทำมาดีตั้งแต่ต้น
***การทำบุญในอดีตส่งผลต่อปัจจุบัน การทำบุญในปัจจุบันส่งผลต่อปัจจุบันและอนาคต***
ตนเตือนตน ของตน ให้พ้นผิด  ตนเตือนจิต ตนได้ ใครจะเหมือน   ตนเตือนตน ไม่ได้ใครจะเตือน  อย่าแชเชือน ใครจะช่วยก็ป่วยการ
สิ่งที่ได้รับจากการฟังธรรม: 
1.ได้ฟังในสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟัง  
2.หากสิ่งใดที่เคยได้ยิน ได้ฟังแล้ว ถ้ายังไม่เข้าใจชัดเจน ก็จะเข้าใจชัดเจนยิ่งขึ้น 
3.ทำให้บรรเทาความสงสัยไปได้ 
4.ทำความเห็นให้ถูกต้องได้ หมายถึง การแก้ไข ปรับปรุง และพัฒนาความคิดเห็น ความเข้าใจของตนเองให้ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม หรือความคิดดี คิดชอบ เพื่อการพัฒนาปัญญาของตนเอง ให้เป็นไปอย่างถูกต้อง  
5.ทำให้จิตเกิดความสงบผ่องใส 

ผลการประกวดข้อคิดที่ได้จากการฟังเทศน์  
ในกิจกรรม  “ฟังธรรมวันพระ” ครั้งที่ 5
(23 มกราคม 2567)



  
วันที่ : ​​​24  มกราคม 2567  
ผู้เขียน : ฐิติรัตน์ แซ่ตัง   

เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2567 คุณสุภาพรเกิดคำแสงในฐานะประธานชมรมพนักงานยิบอินซอยและSenior Registration Officer จากบริษัท ยิบอินซอยและแย๊คส์ จำกัดเป็นผู้แทนจากฝ่ายบริหารมอบรางวัลให้กับผู้ชนะที่ส่งข้อคิดเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ ได้แก่ คุณเบียร์ นางสาวศิริรัตน์ม่วงเอี่ยมตำแหน่งSenior Technical Consultant(Management Information System Section  MIS)ของบริษัทยิบอินซอยจำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (จากกองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษาพัฒนา) จากการไปร่วมฟังเทศน์ ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เนื่องในวันพระซึ่งตรงกับวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “การรู้จักตนเอง” โดยคุณเบียร์ ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ๆ ชาวยิบอินซอยทุกท่านไว้ว่า “ใน 1 สัปดาห์ = 7 วัน = 168 ชั่วโมง = 10,080 นาทีเราอาจจะยุ่งกับการใช้ชีวิตอยู่กับงานครอบครัวและสภาวะสังคม  แต่ด้วยกิจกรรมที่ทางผู้บริหารของบริษัทยิบอินซอยและบริษัทในเครือฯได้จัดให้พนักงานของบริษัททุกท่านได้เข้าร่วมฟังธรรมะฟังเทศน์ในวันพระช่วงเช้าถือว่าเป็นกิจกรรมที่จะทำให้เราได้พักความคิดหัวใจอารมณ์  ตลอดทั้งสัปดาห์ของเราที่ผ่านมาจากที่เบียร์ได้เข้าฟังเทศน์เกือบทุกครั้งเบียร์พบว่าสิ่งที่เราได้รับฟังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตเราทั้งหมดหลังจากรับฟังเทศน์แล้วเบียร์ได้พิจารณาแนวความคิดและปรับทัศนคติในการใช้ชีวิตในแบบที่ควรจะเป็นมากขึ้น  เหมือนกับการฟังเทศน์เรื่อง “การรู้จักตนเอง” ที่ผ่านมาเบียร์จึงอยากเชิญชวนพนักงานทุกท่านเข้าร่วมกิจกรรมนี้  เวลาเพียงแค่ 30 นาที  ในการฟังเทศน์  นั่งหลับตาทำสมาธิรับฟังเทศน์พัฒนาสติเบียร์คิดว่ามีประโยชน์กับชีวิตของทุกท่านแน่นอนค่ะ”  

สำหรับเนื้อหาของข้อคิดที่ส่งเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ในวันที่ 18 มกราคม 2567 ที่ผ่านมามีรายละเอียดดังต่อไปนี้   

เราต้องรู้จักมองตัวเรา รู้ว่าตัวเรานั้นมีข้อบกพร่องอะไร เมื่อรู้ว่าตนเองมีข้อบกพร่องมีส่วนไม่ดีตรงไหน ให้ทำการพิจารณาและรู้จักตักเตือนตัวเอง แต่มิใช่เป็นการตำหนิตนเอง ว่าตนเองโง่ หรือด้อยค่าตนเอง  ในชีวิตมนุษย์ทุกคนก็มีทั้งช่วงเวลาที่โง่และฉลาด สิ่งที่ควรนำมาปฏิบัติในชีวิต คือ เราควรรู้ว่าช่วงเวลาไหนเราควรทำตัวโง่ และช่วงเวลาไหนเราควรจะทำตัวฉลาด  ความโง่ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดี แต่ความโง่ก็เป็นส่วนที่คอยเตือนตนได้ ในบางเรื่องเราอาจจะทำตัวโง่เพื่อมองผ่านไป หากมันเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่เกิดประโยชน์ บางทีเราก็อาจจะทำเป็นโง่เพื่อมองผ่านเรื่องราวนั้นๆ  โดยไม่ต้องเก็บมาเป็นสาระมากนัก   แต่ความโง่ในตัวเราที่เราพิจารณาแล้ว ว่าเป็นความโง่ ที่เราควรจะนำมาปรับปรุงตน พัฒนาส่วนที่เป็นข้อด้อยของตนเองเสริมตนเอง พัฒนาตนเองให้ไปสู่เป้าหมายที่เราอยากจะเป็น เรามีความรู้ ความสามารถและอยากพัฒนาตนเองในอนาคตให้ดีขึ้นเราต้องพิจารณาและพัฒนาตนเองเสมอ 

การเตือนตนเองมีอยู่ 4 ขั้นตอนด้วยกันคือ อ่านตนให้ออก  ให้เรารู้ว่าสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็นๆ แบบไหน เรามีจุดเด่นอะไร  บอกตนให้ได้. สอนตนเองให้ได้ เมื่อรู้ว่าตนผิดเราต้องรู้จักบอกเตือนตนให้ได้ เพราะไม่มีใครจะสามารถเตือนเราได้ดีเท่าตัวเราเอง 
ใช้ตนให้เป็น. ต้องตัดสินใจทำให้ได้ ให้ทันท่วงที เมื่อถึงเวลาที่เราต้องลงมือทำก็ควรจะทำ เพราะเวลาเดินหน้าไปตลอดเวลาไม่เคยย้อนกลับมา หากเราไม่รู้จักใช้ตนให้ถูกเวลาที่ควร อาจจะไม่มีโอกาสในการทำสิ่งนั้นก็เป็นได้
เห็นตนให้ชัด. ให้เราพิจารณามองเห็นตนเอง มองเห็นความไม่เที่ยงของชีวิต ในชีวิตบางสิ่งที่เราทำลงไปด้วยแรงกายแรงใจ ในบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์กลับมาตามที่คาดหวังไว้  ดังนั้นการเตือนตนการรู้จักจนเองนั้น ควรรู้จักตนเองในทุกๆ วัน วันไหนๆ ก็ไม่สำคัญเท่าวันนี้  
สุภาษิตการรู้จักตนเอง. จงเตือนตน ของตน ให้พ้นผิด ตนเตือนจิต ตนได้ ใครจะเหมือน ตนเตือนตน ไม่ได้ใครจะเตือน อย่าแชเชือน จงเตือนตน ให้พ้นภัย 

ผลการประกวดข้อคิดที่ได้จากการฟังเทศน์  
ในกิจกรรม  “ฟังธรรมวันพระ” ครั้งที่ 4
(10 มกราคม 2567)



  
วันที่ : ​​​17  มกราคม 2567  
ผู้เขียน : ฐิติรัตน์ แซ่ตัง   

 เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2567 คุณสุวิชชาลายเลิศAssistant Vice President – Financial & MIS Divisionเป็นผู้แทนจากฝ่ายบริหารมอบรางวัลให้กับผู้ชนะที่ส่งข้อคิดเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ ได้แก่ น้องปุ๋ย  นางสาววัลวิภาเชยกลิ่นตำแหน่งBanking Officer จากฝ่ายการเงิน(Financial Dept.,)ของบริษัทยิบอินซอยจำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (จากกองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษาพัฒนา) จากการไปร่วมฟังเทศน์ ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เนื่องในวันพระซึ่งตรงกับวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “การทำบุญ” โดยน้องปุ๋ย ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ๆ ชาวยิบอินซอยทุกท่านไว้ว่า “การฟังธรรมะในปัจจุบันนี้เข้าใจง่ายไม่น่าเบื่อมีเนื้อหาและการบรรยายที่น่าสนใจยิ่งขึ้นขอเรียนเชิญชาวยิบอินซอยทุกท่านเข้าร่วมฟังธรรมะในทุกวันพระเพื่อเป็นการสะสมบุญอีกทั้งยังมีข้อคิดคติธรรมที่นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้” สำหรับเนื้อหาของข้อคิดที่ส่งเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ในวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่ผ่านมามีรายละเอียดดังต่อไปนี้  

การทำบุญ  รับศีล  เป็นประเพณีของชาวพุทธที่สืบทอดกันมานาน ซึ่งผลของการทำบุญจะช่วยให้เกิด  ความสุขในใจและยังช่วยประดับบารมีแก่บุคคลผู้นั้น “บุญ” ทำได้หลากหลายวิธี เช่น บุญจากการให้ทาน  

บุญจากการรักษาศีล 5 บุญจากการเจริญจิตภาวนา เป็นต้น บุญ สามารถทำได้ทุกโอกาสในชีวิตประจำวัน เช่น การแนะนำผู้อื่นให้ประพฤติดี ประพฤติชอบ ทำจิตใจให้ผ่องใส คิดในสิ่งที่ดีที่ควร หรือในการทำงาน บุญยังสามารถทำให้บุคคลผู้นั้นมีสติในการทำงานมากยิ่งขึ้นอีกด้วย 

จากที่กล่าวมา การทำบุญ การให้ทาน การรักษาศีล 5 การเจริญจิตภาวนา สามารถปฏิบัติได้ง่ายและทำให้เกิดความสุขในชีวิต 

ผลการประกวดข้อคิดที่ได้จากการฟังเทศน์  
ในกิจกรรม  “ฟังธรรมวันพระ” ครั้งที่ 4
(9 มกราคม 2567)



  
วันที่ : ​​​03  มกราคม 2567  
ผู้เขียน : ฐิติรัตน์ แซ่ตัง   

เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 – นางสาวฐิติรัตน์ แซ่ตัง Secretary to the President  & CEO จากทีมเลขานุการเป็นตัวแทนผู้บริหารมอบรางวัลให้กับผู้ชนะที่ส่งข้อคิดเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ ได้แก่ น้องน้ำ นางสาวจุฑามาศ ศรีสวัสดิ์ ตำแหน่ง Quality Assurance Manager จากแผนก Management Division ของบริษัท ยิบอินซอย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (จากกองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษาพัฒนา) จากการไปร่วมฟังเทศน์ ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เนื่องในวันพระซึ่งตรงกับวันที่ 4 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “ความไม่ประมาท” โดยน้องน้ำ ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ๆ ชาวยิบอินซอยทุกท่านไว้ว่า “ขอสวัสดีปีใหม่ 2567 ขอให้ปีนี้เป็นอีกปีที่ดีสำหรับพี่น้องชาวยิบอินซอยทุกท่าน ขอให้เป็นปีที่ได้เริ่มทำสิ่งใหม่ๆ สิ่งดีๆ นะคะ และอยากเชิญชวนชาวยิบอินซอย เข้าร่วมกิจกรรมฟังพระธรรมเทศนา ทุกวันพระ ตลอดทั้งปี 2567 นี้ ที่วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เพื่อเป็นการเจริญสติภาวนากันค่ะ” สำหรับเนื้อหาของข้อคิดที่ส่งเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ในวันที่ 4 มกราคม 2567 ที่ผ่านมามีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 

ความไม่ประมาทเป็นธรรมะที่สำคัญที่สุด ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ธรรมะสร้างความไม่ประมาท ได้แก่ การมี สติ สัมปชัญญะ สติ คือ ความระลึกได้ ก่อนทำ ก่อนพูด ก่อนคิด สัมปชัญญะ  คือ การรู้ตัวขณะพูด ขณะทำ ขณะคิด 

เราจึงต้องมีสติสัมปชัญญะไม่ว่าจะทำการสิ่งใด ทั้งในการปฏิบัติธรรม การดำรงชีวิตประจำวัน การขับรถเดินทาง ถ้ามีสติอยู่เสมอก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุหรือการทำงาน ถ้าเรามีสติ เราก็จะทำงานออกมาได้ดี ถึงจะเจอปัญหาเราก็จะสามารถหาทางแก้ไขได้ ความไม่ประมาทแบ่งออกเป็น 4 ประการ คือ 
1. ความไม่ประมาทต่อเวลา คือ มีสติระลึกตนเสมอ เวลาล่วงเลยไปในทุกวัน จงสร้างแต่คุณงามความดี พวกเราทุกคนได้เวลาเท่ากันในทุกวัน อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า จงใช้ทุกวันให้มีค่า เพราะวันนี้ของทุกคนมีแค่ครั้งเดียว
2. ความไม่ประมาทในวัย คือ การไม่คิดว่าเรามีอายุที่ยังน้อยอยู่ จะใช้ชีวิตอย่างไรก็ได้เพราะยังมีชีวิตอยู่ได้อีกยาวนาน แต่จริงๆ ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ เราจะต้องตั้งตนด้วยความไม่ประมาท เพราะเหตุการณ์ไม่ว่าจะดี จะร้าย สามารถเกิดได้ในกับคนทุกวัย
3. ความไม่ประมาทในงาน คือ การรับผิดชอบหน้าที่งานของตนไม่ให้เกิดการผิดพลาด มีความขยันหมั่นเพียรในหน้าที่การงานของเราเอง มีความรับผิดชอบมีสติในการปฏิบัติงานให้สำเร็จ 
4. ความไม่ประมาทในธรรม คือ การปฏิบัติธรรม เจริญสติภาวนา รักษาศีลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ละทิ้งการเข้าวัด ทำบุญ สร้างบุญ สร้างกุศล จากที่กล่าวมา ความไม่ประมาทถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าจะการอยู่คนเดียว หรือส่วนรวม หากเรามีสตินึกคิดอยู่เสมอ การกระทำต่างๆ ก็จะไม่ส่งผลกระทบให้ทั้งกับตัวเราและผู้อื่นค่ะ     

ผลการประกวดข้อคิดที่ได้จากการฟังเทศน์  
ในกิจกรรม  “ฟังธรรมวันพระ” ครั้งที่ 3
(27 ธันวาคม 2566)



  
วันที่ : ​​​03  มกราคม 2567  
ผู้เขียน : ฐิติรัตน์ แซ่ตัง   

เมื่อวันที่3 มกราคม 2567 – คุณวิมลรัตน์ฉกาจปัญญาไว Vice President – Accounting Division เป็นตัวแทนผู้บริหารมอบรางวัลให้กับผู้ชนะที่ส่งข้อคิดเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ ได้แก่ แนนฐิติรัตน์แซ่ตังตำแหน่งเลขานุการจากฝ่ายManagement Divisionของบริษัทยิบอินซอยจำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (จากกองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษาพัฒนา) จากการไปร่วมฟังเทศน์ ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เนื่องในวันพระซึ่งตรงกับวันที่ 27 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “ส่งท้ายปีเก่าด้วยสติต้อนรับปีใหม่ด้วยสัมปชัญญะ” โดยพี่แนน ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนๆ พี่ๆ น้อง ๆ ชาวยิบอินซอยทุกท่านไว้ว่า “ธรรมะเป็นสิ่งที่ชโลมจิตใจเราให้มีสติรู้จักคิดตั้งมั่นในสิ่งที่ถูกต้องเราสามารถนำหลักแนวคิดธรรมะที่เราเคยได้ยินมาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้เช่นการทำงานกับคนหมู่มากย่อมมีความคิดที่แตกต่างมีปัญหามากมายตามมาเราควรจะมีสติรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นหาวิธีแก้ไขปัญหาโดยไม่ด่วนตัดสินใจ  ลองปรึกษากับคนรอบข้างย่อมมีวิธีใดวิธีหนึ่งที่สามารถแก้ไขปัญหาให้เราได้โดยมีตัวสัมปชัญญะที่ถูกพัฒนาจากการมีสติคือความรู้ตัวทั่วพร้อมจนเกิดการข่มใจและยับยั้งชั่งใจได้ไม่แสดงวาจาและกิริยาใดๆที่ไร้มารยาทและทำลายมิตรภาพตลอดจนไม่ข่มเหงรังแกดูถูกเหยียดหยามผู้อื่นทั้งทางตรงและทางอ้อม” สำหรับเนื้อหาของข้อคิดที่ส่งเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ในวันที่ 27 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมามีรายละเอียดดังต่อไปนี้

การบำเพ็ญทานหรือเรียกง่ายๆ ว่าการทำบุญนั้น เราทุกคนสามารถทำได้ในทุกๆ วัน ไม่ว่าจะเป็นการทำอามิสทาน (การให้วัตถุสิ่งของ), การทำธรรมทาน (ความรู้ทางธรรม) หรือวิทยาทาน (ความรู้ทางโลก) (การให้ความรู้เป็นทานและการปลอบใจ) และอภัยทาน (การสละอารมณ์โกรธเป็นทาน) เพียงถ้าเรามีสติ ซึ่งเป็นเหมือนเครื่องเตือนใจการกระทำของตัวเราเอง และมีสัมปชัญญะ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ผิดชอบชั่วดีและรู้ตัวเสมอว่าทำในสิ่งที่ควรหรือไม่ ทั้งสองสิ่งนี้จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขในยุคปัจจุบัน 

 ในการฝึกสติและสัมปชัญญะนั้น มี 4 อ. เข้ามาเกี่ยวข้อง คือ อาหาร, อากาศ, อารมณ์และออกกำลังกายรวมถึงออกกำลังใจ โดยในหนึ่งชั่วชีวิตของคนๆ หนึ่งไม่สามารถเรียนรู้ทุกอย่างได้ ดังนั้น บุคคลที่เจริญสติและสัมปชัญญะ คือ บุคคลที่มีความเจริญก้าวหน้าตลอดเวลา โดยใช้ทั้งสองสิ่งนี้เป็นเครื่องนำทาง            จากนั้นพระท่านได้กล่าวถึงเรื่องรูปภาพบนธงที่ใช้ในพิธีทอดกฐิน หากสังเกตดีๆ เราจะเห็นว่าจะมีธงที่มีรูปภาพของสัตว์อยู่และแฝงไปด้วยความรู้เกี่ยวกับธรรมะ ซึ่งเป็นปริศนาธรรมที่มีมาแต่โบราณและมีแค่ที่ประเทศไทยของเราเท่านั้น โดยในแต่ละรูปภาพนั้นมีความหมายแตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้ 
1. ภาพธงจระเข้คาบดอกบัว หมายถึง ความโลภ ปากใหญ่ กินไม่อิ่ม 
2. ภาพธงตะขาบ หมายถึง โทสะ ความโกรธ เหมือนพิษที่เผ็ดร้อน  
3. ภาพนางมัจฉา หมายถึง ความหลง เสน่ห์แห่งความงามชวนหลงใหล 
4. ภาพเต่า หมายถึง สติและสัมปชัญญะ ซึ่งเหมือนเป็นการเปรียบเทียบเพื่อรักษาอายตนะทั้ง 6 ของมนุษย์ คือ ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, และใจซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมต่อที่อยู่ในตัวมนุษย์เรา(หากเปรียบกับเต่า คือ หัว, หาง และขาทั้ง 4 ข้าง) ดุจเต่าที่หดอวัยวะซ่อนไว้ในกระดอง เปรียบเสมือนนักบวชใหม่ที่จำเป็นต้องรักษาตนให้พ้นจากสิ่งเร้าทั้ง 3 ข้อในข้างต้น 

หากเปรียบเทียบชีวิตของมนุษย์ที่เกิดมาในโลกนี้ อาจเปรียบได้เหมือนกับ “ดอกบัว” ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เกิดจากน้ำ ใต้โคนตมก็จริง แต่ไม่ใช่ว่าดอกบัวนั้นจะไม่สามารถลอยขึ้นมาเหนือน้ำได้ ดังนั้น เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ดอกบัวเหล่านั้นจะเปล่งประกายด้วยตัวของมันเอง เฉกเช่นกับชีวิตของมนุษย์ทุกคน 

บรรยากาศงานรับรางวัลอายุงาน
ประจำปี พ.ศ.2566


  
วันที่ : 27 ธันวาคม 2566  
ผู้เขียน : กาญจนา หงษ์หยก  

เมื่อวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ทางชมรมพนักงานฯ ได้จัดพิธีมอบรางวัลอายุงาน ประจำปี 2566 ให้แก่พนักงานที่ทำงานให้กับบริษัทมาเป็นเวลา 10 ปีขึ้นไป โดยรวมทุกบริษัทในเครือแล้ว จำนวน 136 คน ซึ่งในงานนี้ คุณเทียนชัยลายเลิศประธานกรรมการบริษัทยิบอินซอยจำกัด ให้เกียรติเป็นประธานและเป็นผู้มอบรางวัลให้แก่พนักงานทุกๆ คน ทั้งยังได้ร่วมรับประทานอาหารเที่ยงกับเหล่าพนักงานที่ได้รับรางวัลอย่างเป็นกันเองอีกด้วย 

บรรยากาศงานเลี้ยงปีใหม่ 
“ลูกทุ่งพาเพลิน ไนท์ปาร์ตี้”


  
วันที่ : 27 ธันวาคม 2566  
ผู้เขียน : กาญจนา หงษ์หยก  

ผ่านไปแล้ว กับงานเลี้ยงปีใหม่ของพวกเราชาวยิบอินซอย ในธีม “ลูกทุ่งพาเพลิน ไนท์ปาร์ตี้” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที 22 ธันวาคม พ.ศ.2566 ณ โรงแรม The Berkeley Pratunam วันนี้จึงอยากนำภาพบรรยากาศบางส่วนมาให้ได้ชมกัน โดยเฉพาะไฮไลท์การประกวดการแต่งกาย และการแสดงยอดเยี่ยม ซึ่งแต่ละทีม จัดหนัก จัดเต็ม ไม่มีใครยอมใคร ชนิดที่ว่า ...เสียเงินไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้... ซึ่งผลการประกวดเป็นดังนี้นะคร้า... 

ผลการประกวดการแสดง
รางวัลชนะเลิศ (8,000 บาท) ได้แก่ ทีม “ศรีมหาอุมาเทวี ES Team” จากหน่วยงาน ES
รางวัลที่ 2 (5,000 บาท) ได้แก่ ทีม “ยิบอินซอย บันเทิงศิลป์” จากหน่วยงาน BM
รางวัลที่ 3 (3,000 บาท) ได้แก่ ทีม “อดีตคือบทเรียน.. โป๊ยเซียนคือยาดม แฮ่!!!” จากหน่วยงาน BMH 
รางวัลที่ 4 (1,000 บาท) ได้แก่ ทีม “เวิร์คฮาร์ด แดนซ์ฮาร์ดเดอร์” จากหน่วยงาน บัญชีและบริหาร  
รางวัลที่ 5 (1,000 บาท) ได้แก่ ทีม “บาปบริสุทธิ์” จาก ปุ๋ยและเคมีเกษตร 

ผลการประกวดการแต่งกาย 
รางวัลชนะเลิศ (5,000 บาท) ได้แก่ ทีมสังฆทาน 
รางวัลที่ 2 (4,000 บาท) ได้แก่ ชุดไทยประตูวัด 
รางวัลที่ 3 (3,000 บาท) ได้แก่ ชุดพระสงฆ์ รางวัลชมเชย 
2 รางวัล (1,000 บาท) ได้แก่ ชุดมาสคอตกระบือ และ ชุดศาลพระภูมิ 
แล้วพบกันใหม่กับกิจกรรมสนุกสนานต่างๆ ของชมรมพนักงานในปี 2567 นะคะ สวัสดีปีใหม่จ้า!!!

กิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ  
“การจัดการแยกขยะ ทำปุ๋ย และส่งเสริมอาชีพเกษตรกรนอกเวลา ” 
ร.ร.วัดมหาพฤฒาราม (ก.ย.-ธ.ค.66) 
โดย Yip In Tsoi Less Waste 



  
วันที่ : ​ 27 ธันวาคม 2566  
ผู้เขียน : ​ กาญจนา หงษ์หยก    

โครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์ (Yip in tsoi less waste) โดยบริษัท ยิบอินซอย จำกัด ได้จัดกิจกรรม   “การจัดการแยกขยะทำปุ๋ยและส่งเสริมอาชีพเกษตรกรนอกเวลา ” โดยร่วมมือกับทางโรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม จัดการอบรมเชิงปฏิบัติส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ในช่วงเดือนกันยายน ถึง ธันวาคม พ.ศ.2566 ทั้งนี้เด็กๆ จะได้เรียนรู้ถึงหลักการแยกขยะที่ถูกต้อง เรียนรู้การทำปุ๋ยจากขยะเศษอาหารที่เกิดขึ้นในโรงเรียน และการฝึกเพาะต้นอ่อน ซึ่งสามารถนำผลผลิตไปขายเป็นรายได้เสริม รวมถึงสามารถพัฒนาทำเป็นอาชีพเกษตรกรนอกเวลา (Part-time farmer) ได้ในที่สุด   

นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม “การจัดทำสื่อสร้างสรรค์” เพื่อเป็นกุศโลบายให้เด็กๆ ได้ทบทวนความรู้และถ่ายทอดออกมาเป็นภาพวาดจัดทำเป็นสื่อสร้างสรรค์อีกด้วย ในการนี้ คณะครูได้มีการขยายผลโดยการให้พี่ๆ ประถมศึกษาปีที่ 4-6 สาธิตการเพาะต้นอ่อนให้น้องๆ ได้ดู และเป็นพี่เลี้ยงสอนให้น้องๆ ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง รวมถึงจัดให้มีการนำต้นอ่อนไปปรุงอาหารให้นักเรียนชั้นอนุบาลและประถมต้นได้ลองชิมอีกด้วย   

สำหรับผลผลิตต้นอ่อนที่โรงเรียนปลูก จะมีการจำหน่าย จ่ายแจก ให้กับผู้ปกครอง  รวมถึงนำไปจำหน่ายในงานนิทรรศการ งานตลาดนัดที่ทางกรุงเทพมหานครจัดขึ้น โดยรายได้ทั้งหมดทางโรงเรียนจะเก็บสะสมไว้เป็นทุนเพื่อนำไปซื้อเมล็ดพันธุ์ต่อไป ซึ่งถือเป็นการทำให้กิจกรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน 

รางวัลอายุงานประจำปี 2566


  
วันที่ : 20 ธันวาคม 2566  
ผู้เขียน : กาญจนา หงษ์หยก  

บริษัท ยิบอินซอย จำกัด เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการมาเป็นเวลา 98 ปีแล้ว จึงมีพนักงานจำนวนไม่น้อยที่ร่วมงานกับองค์กรมาเป็นเวลานานเกินกว่า 10 ปี ซึ่งบุคลากรท่านเหล่านั้น ถือเป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนสนับสนุนให้องค์กรเติบโตก้าวหน้ามาถึงทุกวันนี้ 

ชมรมพนักงานยิบอินซอยและบริษัทในเครือ จึงได้มีหนังสือเสนอถึงบริษัทฯ ให้พิจารณามอบรางวัลพิเศษสำหรับพนักงานที่ทำงานกับบริษัท ฯ ติดต่อกันตั้งแต่ 10 ปี 15 ปี 20 ปี 25 ปีและ 30 ปีขึ้นไป (นับพนักงานที่ทำงานครบและทำงานถึงวันที่ 30 มิถุนายนของปีนั้น) ซึ่งทางบริษัทฯ ได้พิจารณาอนุมัติตามที่ชมรมฯ เสนอและกำหนดมอบรางวัลเพื่อตอบแทนพนักงานที่ร่วมงานกับองค์กรมาเป็นระยะเวลานาน โดยการมอบรางวัลอายุงานนี้ จัดขึ้นทุกปี ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 40 ปีแล้ว ซึ่งเกณฑ์ในการมอบรางวัลเป็นดังนี้ :
           *   รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 10 ปี ได้รับแหวนทองคำหนัก 1 สลึง 1 เฟิ้อง
           *   รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 15 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึง
           *   รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 20 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึง และสร้อยทองคำหนัก 2 สลึง
           *   รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 25 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึงและสร้อยทองคำหนัก 1 บาท มูลค่ารวม 6 สลึง
           *   รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 30 ปี ได้รับเหรียญทองคำหนัก 2 สลึงและสร้อยทองคำหนัก 6 สลึง มูลค่ารวม 2 บาท
           *   รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 35 ปี ได้รับทองคำแท่งหนัก 2 บาท 2 สลึง
           *   รางวัลพนักงานที่ทำงานครบ 40 ปีขึ้นไป  ได้รับทองคำแท่งมูลค่าน้ำหนักตามสัดส่วนอายุงานของพนักงาน (ทุก 5 ปีเพิ่ม 2 สลึง)
สำหรับในปีพ.ศ.2566 นี้ มีพนักงานที่ได้รับรางวัลอายุงาน รวมทุกบริษัทในเครือแล้ว จำนวน 136 คน ซึ่งจะมีพิธีการมอบรางวัลในวันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม พ.ศ.2566

 และในช่วงค่ำวันนั้น ทางชมรมพนักงานฯ ได้จัดงานเลี้ยงประจำปี “ลูกทุ่งพาเพลินไนท์ปาร์ตี้” โดยเชิญศิลปิน “จ๊ะนงผณี” มาแสดงคอนเสิร์ต สร้างความสนุกสนานให้กับเพื่อนพนักงาน ณห้องแกรนด์บอลรูม 1-2-3 โรงแรมThe Berkeley Hotel Pratunam งานเริ่มเวลา 17.00 น.

ทางชมรมฯ จึงขอเชิญชวนเพื่อนพนักงานมาร่วมกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กัน โดยการแต่งกายสไตล์งานวัดหรือลูกทุ่ง เรามีรางวัลการแต่งกาย มีการประกวดการแสดง และของรางวัลต่างๆ มากมายมอบให้ทุกคนได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านกัน 

ผลการประกวดข้อคิดที่ได้จากการฟังเทศน์  
ในกิจกรรม  “ฟังธรรมวันพระ” ครั้งที่ 1
(12 ธันวาคม 2566)



  
วันที่ : 20 ธันวาคม 2566  
ผู้เขียน : ฐิติรัตน์ แซ่ตัง   

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566  คุณเอกรักษ์ นามวงศ์ Section Manager – Office Management Section เป็นตัวแทนผู้บริหาร มอบรางวัลให้กับผู้ชนะที่ส่งข้อคิดเข้าประกวดจากการฟังเทศน์ ซึ่งได้แก่ “น้องมุก” สุภวรรณเต็มเลิศเมธี Senior Accountant จากฝ่ายบัญชี Accounting Team 2 ของบริษัท ยิบอินซอย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 บาท (จากกองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษาพัฒนา) ที่ส่งข้อคิดที่ได้จากการฟังเทศน์ ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร เนื่องในวันพระซึ่งตรงกับวันที่ 12 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา ในหัวข้อ “ไปวัดแล้วได้อะไรและการใช้ชีวิตในยุคสังคมก้มหน้า” ดังนี้ 

ประโยชน์ของการมาวัด 5 ประการ
     1. วัดศรัทธา - สร้างความเชื่อด้วยปัญญา เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อด้วยเหตุผล
     2. วัดความสามารถ - สร้างสมาธิ สามารถฟังได้อย่างใจจดจ่อ
     3. วัดบารมี - สร้างบุญกุศล ด้วยการรักษาศีล 5 เพิ่มคุณความดี
     4. วัดศักดิ์ศรี - สร้างคุณค่าในตัวเอง  สามารถหลุดพ้นจากทุกข์ได้อย่างเท่าเทียมกัน
     5. วัดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ - สร้างสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ  เคารพกฎแห่งกรรม 
     ​ โดยน้องมุก ได้ฝากข้อคิดถึงเพื่อนๆ ชาวยิบอินซอยทุกท่านด้วยว่า

 ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ห่างไกลจากศาสนามากขึ้นทุกที จากการดำเนินชีวิตที่มีความเร่งรีบและมีสิ่งบันเทิง ทำให้การเข้าวัด ฟังธรรม ถูกหลงลืมไป แต่เมื่อได้มาลองฟังธรรม จากกิจกรรมฟังเทศน์ทำให้รู้ว่าการฟังธรรมไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย พระท่านใช้คำที่เข้าใจง่าย ยกตัวอย่างตามยุคสมัย รู้สึกเพลิดเพลินแถมยังได้ข้อคิด  ส่วนประโยชน์ของศาสนาก็คือ ทำให้เรามีที่พึ่งพา เมื่อยามที่ชีวิตของเรามีปัญหา หาทางออกอะไรไม่ได้” 

 ทั้งนี้ ทางทีมเลขานุการ อยากเชิญชวนเพื่อนๆ ชาวยิบอินซอยมาร่วมกิจกรรมในวันพระ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีทางพระพุทธศาสนาร่วมกัน ซึ่งทำให้ท่านยังได้รับประโยชน์ต่อจิตใจและสามารถนำธรรมะไปปรับใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติฝึกฝนตนเองในภายภาคหน้าต่อไป   

 ขอเชิญร่วมกิจกรรม “สุขทุกวันพระ” ฟังพระธรรมเทศนา เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน  เวลา 9.00 – 10.00 น. ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร
กำหนดการฟังเทศน์วันพระเดือน ธ.ค.66-ม.ค.67เดือน ธันวาคม 2566 วันพุธที่ 27 ธันวาคม 2566 

เดือน มกราคม 2567 
วันพฤหัสบดีที่ 4 มกราคม 2567 
วันพุธที่ 10 มกราคม 2567
วันพฤหัสบดีที่ 18 มกราคม 2567
วันพฤหัสบดีที่ 25 มกราคม 2567 

          ​*** ฟังธรรมะแล้ว เขียนสรุปเนื้อหาสาระและประโยชน์ที่ได้รับมา ไม่เกิน 1 หน้า A4 ส่งอีเมล์มาที่ Thitirat.Sa@yipintsoi.com ภายในวันจันทร์ของสัปดาห์ถัดไป บทความใดได้รับคัดเลือกลงใน Y magazine จะได้รับเงินรางวัล 1,000 บาท ***

กิจกรรมวันลอยกระทง
ชาวยิบอินซอยปี 2566


  
วันที่ : ​​29  พฤศจิกายน 2566 
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์  

วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร รื้อฟื้นวัฒนธรรมที่ไม่ได้จัดมานานกว่า 30 ปี “สุขทุกวันพระ”  โดยเชิญญาติโยมร่วมฟังพระธรรมเทศนาในทุกวันพระ แบบฟังง่าย ได้สาระ เพื่อนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เริ่มครั้งแรกใน วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทง

ในโอกาสนี้ คุณมรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้นำคณะผู้บริหารและพนักงาน ไปร่วมฟังธรรมะในหัวข้อ "การไม่ทำร้ายมิตร" โดยเชิญชวนให้ทุกคนร่วมแต่งกายชุดไทยและนำกระทงไปร่วมพิธีเพื่อความเป็นศิริมงคล ส่วนชมรมพนักงานยิบอินซอยก็ได้จัดกิจกรรม “ประกวดนางนพมาศ” โดยหลังจากฟังธรรมเสร็จ ก็มีการเชิญชวนให้ผู้ที่แต่งกายชุดไทย ถ่ายภาพสวยๆ พร้อมส่งคติธรรมที่ได้รับจากการฟังธรรมะมาร่วมประกวด โดยมีรางวัลทั้งในประเภทเดี่ยวและทีม  ซึ่งกิจกรรมนี้มีผู้ที่ส่งภาพมาเข้าประกวดกันอย่างคึกคักเหนือความคาดหมาย จนผู้ใหญ่ใจดีของเราต้องสนับสนุนเงินรางวัลเพิ่มให้อีก

ทั้งนี้ กิจกรรมการฟังธรรมทุกวันพระ (ที่ตรงกับวันทำงาน) จะดำเนินต่อไปเรื่อยๆ  โดยจะจัดในเวลา 09.00 - 10.00 น. ณ วัดมหาพฤฒารามวรวิหาร 

จึงขอเชิญชวนชาวยิบอินซอยเข้าร่วมกิจกรรมนี้ในวันพระรอบต่อๆ ไป   มาร่วมฟังธรรมกันเยอะๆ เพื่อเติมความสุขและความเบิกบานทางใจกันนะคะ :)

บรรยากาศงานทอดกฐินปี 2566
ณ วัดเขาทอง จังหวัดนครสวรรค์


  
วันที่ : ​​15  พฤศจิกายน 2566 
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์  

เมื่อวันที่  11-12  พฤศจิกายน พ.ศ.2566 ชมรมพนักงานยิบอินซอยและบริษัทในเครือฯ ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐิน ณ วัดเขาทอง (เชื่อมสามัคคีธรรม) ตำบลช่องแค อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งคุณมรกต ยิบอินซอย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นำคณะผู้บริหารและพนักงาน บริษัท ยิบอินซอยและบริษัทในเครือ ร่วมกันถวายกฐินให้แแก่วัดฯ เพื่อสมทบทุนโครงการสร้างเมรุใหม่ (เมรุไร้มลพิษ) เนื่องจากของเดิมเก่าและชำรุด เป็นจำนวนเงิน 1,652,381.15 (หนึ่งล้านหกแสนห้าหมื่นสองพันสามร้อยแปดสิบเอ็ดบาทสิบห้าสตางค์) และเนื่องจากในเดือนนี้ เป็นเดือนวันคล้ายวันเกิดของ คุณศุภฤกษ์ ลายเลิศ(5 พฤศจิกายน พ.ศ.2566)กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสซั่นส์เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด จึงได้มีการมอบอุปกรณ์การเรียนให้กับ “โรงเรียนวัดเขาฝา” เพื่อให้น้องๆ ได้ไปใช้ประโยชน์ ในโอกาสดังกล่าวด้วย หลังจากถวายกฐินแล้ว คณะผู้ร่วมบุญได้เดินทางไปสักการะ “หลวงพ่อพรหม ชมสระดินขาว ณ วัดช่องแค” และเข้าที่พัก “รีสอร์ทบ้านสวนนัทธมน” ร่วมรับประทานอาหารเย็นพร้อมกันในบรรยากาศเป็นกันเองและสนุกสนานสไตล์ชาวยิบอินซอย

เช้าวันรุ่งขึ้น(12 พฤศจิกายน พ.ศ.2566) ได้เดินทางไป “ศาลพ่อปู่นาคราชจันเสน” และรับประทานอาหารกลางวันที่ “ร้านไพบูลย์ไก่ย่างสิงห์บุรี” จากนั้นเดินทางไป “ตลาดไทยย้อนยุคบางระจัน” แวะซื้อของฝากและเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ

งานนี้ อิ่มทั้งบุญทั้งท้อง และยังได้ถือโอกาสท่องเที่ยวพักผ่อนไปด้วย สำหรับท่านที่พลาดไปปีนี้ ปีหน้าต้องติดตามข่าวประชาสัมพันธ์ให้ดีๆ จะได้มีโอกาสไปทำบุญร่วมกัน สุดท้ายนี้ ก็ขออนุโมทนาในบุญครั้งนี้ด้วยนะคะ แล้วเจอกันใหม่ปีหน้าค่ะ!

Good Morning Monday 
 
วันที่ : ​​8  พฤศจิกายน 2566 
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์  

กิจกรรม “Good Morning MONDAY” เป็นกิจกรรมที่จัดมาต่อเนื่องนานกว่า 15 ปีแล้ว โดยจัดทุกวันจันทร์ ของเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ในช่วงหน้าหนาวของทุกปี ทั้งนี้ช่วงปีแรกจัดเป็นกิจกรรมเล็กๆ บนพื้นที่ชั้น 3 อาคารอนุรักษ์ ต่อมาได้รับความนิยม มีผู้ร่วมกิจกรรมมากขึ้น ก็ได้ย้ายลงมาจัดอย่างจริงจังที่พื้นที่ด้านหลังอาคาร TCCL

การจัดกิจกรรมนี้ ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ชาวยิบอินซอยได้มีโอกาสพบปะ สังสรรค์กัน โดยจะนำอาหารเช้ามาแบ่งปันกัน หรือมานั่งคุยเม้ามอย มีเรื่องราวมาแลกเปลี่ยนกันหลังจากหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ก็ได้ ส่วนทางบริษัทฯ ก็มีการเตรียมอาหาร เช่น ข้าวต้ม ไข่ดาว ไส้กรอก ขนมปังปิ้ง ไข่กระทะ ชา กาแฟ น้ำเต้าหู้ ฯลฯ ให้พนักงานได้อิ่มท้องกันในช่วงมื้อเช้า

สำหรับในปี 2566 นี้ Good morning MONDAY ได้เริ่มขึ้นแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยเราจะมีจัดต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2567 ตั้งแต่เวลา 07.00 – 09.30 น. ใครสนใจก็ตื่นเช้าวันจันทร์อย่างสดใส มาร่วมจอยกับเราได้นะคะ

ปล. กิจกรรมจัดทุกวันจันทร์ แต่จันทร์ไหนติดวันหยุด ก็ไม่มีน้าาา 

ยิบอินซอย ร่วมใจต้านภัยหนาว 
2566  
 
วันที่ : 1 พฤศจิกายน 2566 
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์ 

โครงการ “ยิบอินซอย ร่วมใจต้านภัยหนาวเพื่อน้องผู้ยากไร้ในชนบท” เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2555 โดยได้รับการสนับสนุนจาก “กองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษา”  โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมอุปกรณ์การเรียน เครื่องนุ่มห่ม นำไปมอบให้กับน้องๆ ในชุมชนที่ขาดแคลน ซึ่งต่อมา ในปีพ.ศ. 2559 ทางชมรมพนักงานยิบอินซอย ก็ได้รับมาดูแลโครงการนี้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน สำหรับในปี 2566 นี้ เราจะไปกันที่ “โรงเรียนบ้านทรัพย์สว่าง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์” โดยออกเดินทางกันในวันที่ 5 ธันวาคม 2566

ทั้งนี้ เรามีกิจกรรมของโครงการฯ ที่พนักงานทุกคนร่วมด้วยช่วยกันทุกๆ ปี คือ “กิจกรรมถักหมวกและผ้าพันคอ” เพราะเมื่อถึงหน้าหนาว ในต่างจังหวัดจะหนาวกันสุดๆ โหดจริงจัง ช่วงนี้จึงอาจเห็นพนักงานหลายๆ คน เริ่มเร่งถักหมวกกันแล้ว ส่วนคนที่ถักไม่เป็น ไม่ต้องห่วง เรามีผู้ที่เรียกได้ว่าเป็น “เซียนแห่งการถักหมวกไหมพรมของยิบอินซอย” อยู่หลายคน ที่เจอหน้าเมื่อไหร่ ปรึกษาสอบถามได้เลย ได้แก่  
คุณวิลาวรรณ  สะสม (ป้ากบ OM)
คุณสิรินาท  คงอินทร์ (พี่เปิ้ล OM)
คุณวิโรจน์  เหมประยูร (พี่ผอม OM)
คุณชลิดา  เจียรนำวงศ์ (พี่อ้อ OM)
คุณอรอนงค์ โพธิ์งาม (พี่โบว์ OM)
คุณปทิตตา ชินวงค์ (พี่นิด OM ครัวใบไม้)
คุณเพ็ญประภา รักสนิท (พี่โจ๊ก HRD) 
คุณวราลี วินยางค์กูล (พี่หญิง HRD) 
คุณสาลินี  วิจิตรเวชการ (พี่ตู่ HR) คุ
ณณัฐกาญจน์ สังข์ไพร (พี่กิ๊ก ENRICH BROKER) 
คุณขจีพักตร์  ลำเจียก (พี่เปิ้ล บัญชี) 
คุณนาตยา  หมุ่ยจันทา (พี่นาต บัญชี) 
คุณญาณี  จันทร์คำ (พี่ยุ้ย จากโรงงานบางปู)
คุณปทิตตา ชินวงค์ (พี่นิด OM ครัวใบไม้) 
คุณบุษราพร  หล่วงกระโทก (พี่แต๋น CNS) 
คุณวีณา องค์วงศ์สกุล (พี่หนูนา TCCL) 

กิจกรรมการถักหมวกไหมพรมนี้ ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยมีลูกค้าและครอบครัวของพนักงาน ขอมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งทางชมรมฯ ก็ยินดี สามารถติดต่อขอรับไหมพรมและอุปกรณ์การถักได้ที่ เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ชั้น 1 อาคารอนุรักษ์ โดยเมื่อถักหมวกเสร็จแล้ว ก็นำมาส่งมอบ รวมถึงถ้ามีของใช้ อุปกรณ์การเรียน เสื้อผ้าอื่นๆ จะนำมาบริจาคด้วยก็จะดีมากๆ โดยขอให้ส่งมอบภายในวันที่ 1 ธันวาคม 2566

ส่วนพนักงานที่สนใจจะร่วมทริปเดินทางไปมอบสิ่งของ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เพจชมรมฯ YIP IN TSOI FANCLUB ได้น้า!!    

หมายเหตุ : “กองทุนธวัช ยิบอินซอย เพื่อการศึกษา” ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ.2550 เพื่อระลึกถึงคุณธวัช ยิบอินซอย (บิดาของคุณมรกต ยิบอินซอย) ผู้ล่วงลับ ในปีพ.ศ.2548 วัตถุประสงค์ของกองทุนคือ เพื่อการศึกษาและพัฒนา ให้การสนับสนุนกิจกรรมการเรียนรู้ รวมถึงฝึกทักษะและอาชีพเสริมให้กับพนักงานและบุคคลทั่วไป 

 ​​ กิจกรรมงานบุญกฐินประจำปี 2566 
ณ เมืองสี่แคว 


วันที่ : 25 ตุลาคม พ.ศ.2566
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์ 

จังหวัดนครสวรรค์เป็นจังหวัดประตูสู่ภาคเหนือ ซึ่งถูกเรียกอีกชื่อว่า “เมืองสี่แคว” เพราะเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำสายหลักคือ แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมาจากการรวมกันของแม่น้ำสี่สาย “ปิง” “วัง” “ยม” “น่าน” นั่นเอง นอกจากนี้ นครสวรรค์ ยังมีชื่อเสียงในด้านงานประเพณี เช่น “งานแห่มังกรนครสวรรค์” ที่เป็นที่รู้จักและยิ่งใหญ่สุดๆ ของเทศกาลตรุษจีน มีวัฒนธรรมอันดีงาม ที่กิน ที่เที่ยว คาเฟ่ รวมถึงที่พักให้ได้ไปเช็คอินอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น บึงบอระเพ็ด อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ เขาหน่อ ส่วนวัดก็จะมีทั้ง วัดคีรีวงศ์ วัดป่าสิริวัฒนวิสุทธิ์ วัดจันเสน เป็นต้น มีสถานที่ ของดีของเด็ดมากมายดังคำขวัญจังหวัดว่า “เมืองสี่แคว แห่มังกร พักผ่อนบึงบอระเพ็ด ปลารสเด็ดปากน้ำโพ ”

และในปีนี้ ชมรมฯ ได้จัดกิจกรรมสำหรับสายบุญ ไปร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินที่จังหวัดนครสวรรค์ ในวันที่  11  พฤศจิกายน 2566ณวัดเขาทองอ.พยุหะคีรีจ.นครสวรรค์ ซึ่งกฐินในครั้งนี้ก็จะไปช่วยสมทบทุน บูรณะเมรุเผาศพ ด้วยนะคะ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ทีมชมรมฯของเรา ก็ได้ไปลงพื้นที่ survey กันมาแล้วเรียบร้อย ถ้าใครสนใจร่วมเดินทางไปด้วยกัน สามารถติดตามทางเพจชมรมฯ YIP IN TSOI FANCLUB ได้เลย !

เวิร์กชอป 
“การเปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นดินปุ๋ย”
 
วันที่ : ​18  ตุลาคม 2566 
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์ 

รู้หรือไม่? บริษัทยิบอินซอยของเรา ไม่ทิ้งขยะเศษอาหารออกนอกพื้นที่มาเป็นเวลาต่อเนื่องกันกว่า 5 ปีแล้ว!!!

ขยะเศษอาหาร เป็นขยะเจ้าปัญหา ที่เมื่อปนเปื้อนไปกับขยะอื่นๆ เช่น ขวดน้ำพลาสติก กระดาษ กระป๋อง ขวดแก้ว ฯลฯ ก็จะทำให้ขยะเหล่านั้นหมดคุณค่าทันที แทนที่จะถูกนำไปรีไซเคิล ก็จะถูกเหมารวมกลายเป็นขยะทั่วไป และถูกนำไปทิ้งเทกองที่หลุมฝังกลบ ซึ่งจะก่อให้เกิดมลภาวะทั้งกลิ่น ความร้อน ก๊าซเรือนกระจกต่างๆ รวมถึงเป็นแหล่งเชื้อโรคและที่อาศัยของสัตว์พาหะ

ทางยิบอินซอย จึงได้จัดทำโครงการ ““Yip In Tsoi Less Waste” เปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์  ขึ้นมา เพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับเรื่องขยะเมือง และเริ่มลงมือทำในสิ่งที่เราทำได้เองง่ายที่สุด ก็คือ การแยกและจัดการขยะเศษอาหาร โดยปัจจุบัน เรานำขยะเศษอาหารจากการแยกขยะในองค์กร ตามออฟฟิศสำนักงาน ขยะเศษอาหารจากแคนทีน งานจัดเลี้ยง และการตัดแต่งวัตถุดิบจากครัวใบไม้ มาเปลี่ยนให้เป็นดินปุ๋ย และนำไปใช้บำรุงดินในพื้นที่สีเขียวภายในบริษัท

จากการทำกิจกรรมนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เรามีองค์ความรู้ด้านการจัดการขยะเศษอาหาร และมีการจัดเวิร์กชอปเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ให้กับบุคคลทั้งภายในและภายนอกองค์กรอยู่เนืองๆ ทั้งนี้มีผู้ขอเข้ามาดูงานที่บริษัทเราด้วยทั้งที่เป็น ร้านอาหาร รีสอร์ท สถาบันศึกษา องค์กรภาครัฐและเอกชนต่างๆ

และเมื่อวันที่ 22 27 และ 28 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา โครงการ YIP IN TSOI Less Waste ร่วมกับทีมบริหารทรัพยากรบุคคล ก็ได้จัด "LEARNING ACTIVITY การเปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นดินปุ๋ย" ให้กับบุคลากรภายในยิบอินซอย  เพื่อเป็นการทบทวนและเพิ่มพูนความรู้ให้กับบุคลากรทั้งเก่าและใหม่ โดยวิทยากรคือ คุณชูเกียรติ โกแมน ผู้เชี่ยวชาญในด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม ได้มาปูพื้นฐานความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในองค์กร บอกเล่าสถานการณ์ขยะในปัจจุบัน ให้ความรู้เกี่ยวกับประเภทและการแยกขยะอย่างถูกวิธี รวมถึงอธิบายวิธีการและวิทยาศาสตร์เบื้องหลังของการเปลี่ยนขยะเศษอาหารเป็นดินปุ๋ย โดยผู้เข้าอบรมทั้ง 3 รุ่น ก็ได้ทดลองทำตามขั้นตอนการผสมปุ๋ยด้วยตัวเอง ทำให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้น

สำหรับหน่วยงานใดสนใจอยากเรียนรู้หรืออยากให้จัดเวิร์กชอปดีๆ แบบนี้ ก็สามารถแจ้งมาได้ที่ หน่วยงานบริหารทรัพยากรบุคคล เบอร์ภายใน 2107 คุณอารยา, 2116 คุณพงศกร  

ผลการแข่งขัน 
YIP IN TSOI FOOTBALL TOURNAMENT 2023  
วันที่ : ​ 4 ตุลาคม 2566 
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์ 

จบลงไปแล้วกับการแข่งขันฟุตบอล YIP IN TSOI FOOTBALL TOURNAMENT 2023 
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา ดุดัน และดุเดือด กันสุดๆ มาดูกันเลยว่าทีมไหนได้แชมป์ไปในปีนี้ !!

อันดับ 1 : BI1 /BS-BI(กรมศุลฯ) 
อันดับ 2 : GLO&HOPE / BS-BI(กองสลาก) 
อันดับ 3 : DEEGREE FC / ES (eng.&cc,ncs) 
อันดับ 4 : TANGERINE / TANGERINE   

ก็ต้องขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะทุกท่าน แต่ผู้ที่ไม่ได้รางวัลไม่ต้องเสียใจ ปีหน้ามาลุยกันใหม่นะ  !!

 ​ ยิบอินซอยคัพ 2566
เกมฟุตบอลประจำปีเชื่อมความสัมพันธ์ชาวยิบอินซอย 
วันที่ : 20 กันยายน พ.ศ.2566
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์ 

สวัสดีค่าา และแล้วก็เวียนมาถึงกิจกรรมสำคัญประจำปีของชมรมพนักงานยิบอินซอยอีกหนึ่งกิจกรรม ซึ่งมีจัดต่อเนื่องยาวนาน มาตั้งแต่เริ่มตั้งชมรมฯ เมื่อปีพ.ศ.2518 นั่นก็คือ กิจกรรมแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ “ยิบอินซอยคัพ”     ที่มาของการจัดการแข่งขันฟุตบอลของชมรมฯ  “พี่อ้วน” (คุณ นลิน โยคสิงห์ หัวหน้างานจัดส่ง ฝ่ายบริหารจัดการอาคาร) ซึ่งทำงานอยู่ที่ยิบอินซอยมาเกือบ 40 ปี  เล่าให้ฟังว่า เริ่มจากการจัดแข่งขันฟุตบอลกับลูกค้าเป็นประจำเกือบทุกสัปดาห์ และต่อมาจึงมาจัดเป็นกิจกรรมประจำปีของชมรมฯ  โดยจะแข่งในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งพนักงานที่อยู่ในบริษัทต่างๆ ในกลุ่มยิบอินซอย สามารถฟอร์มทีมส่งรายชื่อเข้ามาสมัครได้ โดยมีเงื่อนไขคือ
     - ต้องเป็นสมาชิกชมรมฯ และสมาชิกสมทบ พนักงานบริษัท ยิบอินซอย จำกัด และบริษัทในเครือ
     - ต้องมีตัวแทนแต่ละหน่วยงานเข้ามาร่วมทีม
     - รับสมัครจำนวนจำกัด (ทีมละ ไม่เกิน 15 คน)
     - ชมรมฯ ให้เงินสนับสนุนการฝึกซ้อม ทีมละ 2,500 บาท 
ซึ่งในปี พ.ศ.2566 นี้ มีทีมที่สมัครเข้าร่วมแข่งขัน 11 ทีม ดังนี้ 
1.SISSONS Team  จากบริษัท SISSONS
2. YJ - F & A  จากบริษัท ยิบอินซอยและแย๊คส์ หน่วยงาน ปุ๋ยและเคมีเกษตร 
3. Tangerine  จากบริษัท Tangerine 
4. ES & SBS   จากหน่วยงาน ES & SBS (รวมทีม)
5.GLO&HOPE  จากหน่วยงาน BS-BI (กองสลาก)
6. YIP PRO JECT จากหน่วยงาน CNS/YJENG/YIPE 
7. BM Sports FC (GFMIS)  จากหน่วยงาน BS-BM 
8. BI1  จากหน่วยงาน BS-BI (กรมศุลฯ) 
9. BI2  จากหน่วยงาน BS-BI (กรมศุลฯ) 
10. DEEGREE FC  จากหน่วยงาน ES (Eng.&CC, NCS) 
11.OM  จากหน่วยงาน OM (HR&PR) 
  จากนั้นเราได้ทำการจับฉลากแบ่งสาย A B และ แข่งขันเพื่อหา ที่ 1 และ 2 ของสาย และมาจัดคู่ไขว้ลำดับ ลำดับที่ 1 ของ สาย A แข่งกับ ลำดับที่ 2 ของสาย B และจับคู่ไขว้กันลงมาเรื่อยๆ เพื่อค้นหาทีมชนะเลิศ โดย 
รางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินรางวัล     8,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 1                   7,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 2                   5,000 บาท
รองชนะเลิศอันดับ 3                   4,000 บาท

การแข่งขันจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566 ณ สนามฟุตบอล “Cocopark” เวลา 09.00 – 17.00 น. วันเดียวรู้เรื่อง ว่าใครจะได้รางวัลชนะเลิศ  งานนี้ นอกจากนักกีฬาจะได้โชว์ศักยภาพแข้งทอง เงิน ทองแดง กันแล้ว เหล่ากองเชียร์ก็สุดมันส์ ร่วมลุ้น ร่วมกรี๊ดกันไปด้วย สำหรับผู้ที่สนใจชมและเชียร์สามารถไปเชียร์เกาะติดสนาม หรือจะติดตามผลการแข่งขันได้ผ่านช่องทาง  FB : Yip In Tsoi Fan Club และ Line OA :@BAIMAI ก็ได้นะ   ในช่วงนี้ทีมต่างๆ ก็เริ่มซุ่มซ้อมกันแล้ว รอชมภาพวันจริงกันได้เลยว่าจะมันส์ขนาดไหน!!!
การแข่งขันจะมีขึ้นในวันเสาร์ที่ 30 กันยายน 2566 ณ สนามฟุตบอล “Cocopark” เวลา 09.00 – 17.00 น. วันเดียวรู้เรื่อง ว่าใครจะได้รางวัลชนะเลิศ  งานนี้ นอกจากนักกีฬาจะได้โชว์ศักยภาพแข้งทอง เงิน ทองแดง กันแล้ว เหล่ากองเชียร์ก็สุดมันส์ ร่วมลุ้น ร่วมกรี๊ดกันไปด้วย สำหรับผู้ที่สนใจชมและเชียร์สามารถไปเชียร์เกาะติดสนาม หรือจะติดตามผลการแข่งขันได้ผ่านช่องทาง  FB : Yip In Tsoi Fan Club และ Line OA :@BAIMAI ก็ได้นะ   ในช่วงนี้ทีมต่างๆ ก็เริ่มซุ่มซ้อมกันแล้ว รอชมภาพวันจริงกันได้เลยว่าจะมันส์ขนาดไหน!!!

 กิจกรรมหล่อเทียน และแห่เทียนพรรษา
ประจำปี พ.ศ. 2566


วันที่ : 2 สิงหาคม พ.ศ.2566
ผู้เขียน : อารยา นุกูลรักษ์ 

วันเข้าพรรษา เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนา ที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝนที่มีกำหนด 3 เดือนตามที่พระวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น ทั้งนี้ วันเข้าพรรษาจะนับตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี (หรือเดือน 8 หลัง ถ้ามีเดือน 8 สองหน) และสิ้นสุดลงในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11  ซึ่งในปีพ.ศ. 2566 วันเข้าพรรษาจะตรงกับวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ.2566  และวันออกพรรษาตรงกับวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2566

ในกิจกรรมงานบุญในช่วงเข้าพรรษา สิ่งหนึ่งที่พุทธศาสนิกชนนิยมกระทำกัน ก็คือการถวาย "เทียนพรรษา" โดยจะมีการบอกบุญเพื่อร่วมหล่อเทียนแท่งใหญ่ แล้วแห่ไปตั้งในวัดอุโบสถ เพื่อจุดบูชาพระรัตนตรัยตลอด 3 เดือน การแห่เทียนจำนำพรรษาหรือเทียนเข้าพรรษามักจะจัดเป็นงานเอิกเกริก มีฆ้องกลองประโคมอย่างสนุกสนาน และเทียนนั้นมีการหล่อหรือแกะเป็นลวดลายและประดับตกแต่งกันอย่างงดงาม

บริษัทยิบอินซอยของเรา ก็มีการจัดกิจกรรมประเพณีประจำปี ให้เราได้ร่วมบุญและ “หล่อเทียนพรรษา” ร่วมกัน โดยมีหน่วยบริหารสำนักงาน (Office Management Section) ซึ่งนอกเหนือจากความเชี่ยวชาญและการให้บริการเรื่องระบบสาธารณูปโภค ความสะอาด ความปลอดภัย การซ่อมบำรุง ฯลฯ แล้ว ยังมีฝีมือในการหล่อเทียนพรรษาอีกด้วย

 “คุณวิโรจน์ เหมประยูร” หรือ “พี่ผอม”  ได้เล่าให้ฟังว่า ที่ยิบอินซอย มีพิธีการหล่อเทียนมานานกว่าสิบปีแล้ว โดยการริเริ่มของ “คุณแววรัตน์ ชำนาญภักดี” หรือ “คุณจ๊ะ” ช่วงแรกๆ ยังไม่มีอุปกรณ์ ก็ต้องไปหยิบยืมจากวัดและโรงเรียน แม้จะไม่เคยหล่อเทียนกันมาก่อน แต่ทีมงานส่วนกลางก็ช่วยๆ กัน ผิดบ้าง ถูกบ้าง มีครั้งหนึ่งในช่วงหล่อเทียน พนักงานจะอธิษฐานและนิยมใส่เหรียญลงไปด้วย แต่ทางวัดได้แจ้งมาว่า ขอไม่ให้ใส่เหรียญลงไป เพราะเวลานำเทียนไปใช้ ปรากฏว่าเหรียญจะร่วงกราวลงมา 

จนถึงวันนี้ เราค่อยๆ พัฒนาการหล่อเทียนมาเรื่อยๆ จนอยู่ตัวแล้ว โดยในช่วง 3-4 ปีหลัง ทางทีมงานมีการปรับการทำงานให้สอดคล้องกับแนวคิดในเรื่องของสิ่งแวดล้อม การไม่เพิ่มขยะ การใช้สิ่งของต่างๆ ให้ได้ประโยชน์สูงสุง  เราจึงมีการปรับไม่ใช้ฐานเทียนสำเร็จในการหล่อเทียน เพราะเมื่อเทียนถูกจุดไปแล้ว ตัวฐานก็จะไม่ได้ใช้ทำอะไรต่อ  แต่เราใช้ “หม้อ” แทนฐานเทียน เพื่อที่วัดจะได้นำหม้อไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไป

เมื่อทำการหล่อเทียนและได้ต้นเทียนแล้ว ก็จะมีการตกแต่งต้นเทียนให้สวยงาม พร้อมที่จะเข้าสู่พิธีการ “แห่เทียน” ซึ่งได้รับความร่วมมือจากคณะคุณครู และน้องๆ โรงเรียนวัดมหาพฤฒาราม แต่งตัวกันมาสวยงาม มาร่วมขบวนแห่เทียนพรรษาไปด้วยกันกับผู้บริหารและพนักงานชาวยิบอินซอย

ปีนี้ ขบวนแห่เริ่มต้นที่บริษัทฯ เดินร้องรำทำเพลงกันไปจนถึงวัดมหาพฤฒาราม ซึ่งแม้อากาศจะค่อนข้างร้อน แต่ทุกคนก็สนุกสนาน 
เมื่อแห่เทียนรอบพระอุโบสถ 3 รอบแล้ว ผู้ร่วมงานทุกคนก็จะเข้าไปในพระอุโบสถ ทำการกราบพระตามลำดับขั้นตอนของพิธี จากนั้นก็ทำการถวายเทียนและเงินบริจาค ได้ทำบุญร่วมกันเบิกบานกันถ้วนหน้า ก่อนจะแยกย้ายกันไปปฏิบัติภารกิจของแต่ละคน

กิจกรรมการหล่อเทียนและแห่เทียนพรรษานี้ เป็นกิจกรรมประเพณีที่บริษัทยิบอินซอยจัดขึ้นทุกปี หากใครพลาดร่วมงานปีนี้ ปีหน้าขอเชิญชวนไว้ล่วงหน้า โดยท่านสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมสัมพันธ์ต่างๆ ได้ที่ Line OA : @baimai และอีเมล์จากทางหน่วยงานประชาสัมพันธ์ 
Buy Now
เบาะรองนอน
Sample text. Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit nullam nunc justo sagittis suscipit.
Quantity
฿590
Loading...
Submit Order